เม พรีมายา เปิดใจเจ็บ! ถูกเพื่อนหักหลัง ฮุบคลินิกกำไร 50 ล้านต่อเดือน

เม พรีมายา

เม พรีมายา เปิดใจเจ็บ! ถูกเพื่อนหักหลัง ฮุบคลินิกกำไร 50 ล้านต่อเดือน

เม พรีมายา

“เม พรีมายา” เปิดใจ ปมถูกโกง เพื่อนฮุบธุรกิจคลินิก กำไรเดือนละ 50 ล้าน ทำไมยอมปิดบริษัท รับเป็นบทเรียนราคาแพง

เมเล่าว่า ธุรกิจนี้เธอมีส่วนร่วมก่อตั้งกับเพื่อนที่รู้จักกันผ่านโซเชียล โดยตอนนั้นเป็นช่วงที่เธอกำลังโด่งดัง จึงถูกชักชวนให้เปิด “คลินิก” ร่วมกันในฐานะผู้ถือหุ้น 4 คน ได้แก่ เม 30% คุณญา (นามสมมุติ) 30% และคุณหมออีก 2 ท่าน ถือหุ้น 30% และ 10% ตามลำดับ โดยคนทีาได้เข้ามาชักชวนคือ คุณญา

ต่อมาธุรกิจเติบโตขึ้น จึงปรับโครงสร้างใหม่ แบ่งหุ้นเท่ากันคนละ 25% จากเดิมเปิดเพียง 1 สาขา ก็ขยายเพิ่มเป็น 3 สาขา ก่อนจะเหลือเพียง 2 สาขา เนื่องจากผลประกอบการไม่เป็นไปตามเป้า แต่ก็ยังถือว่ามีกำไรตั้งแต่วันแรกที่เปิดกิจการ

อย่างไรก็ตาม กระแสดราม่าที่เกิดขึ้นกับเม ทั้งคดีความและเสียงวิจารณ์จากสังคม ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อชื่อเสียงของคลินิก หุ้นส่วนจึงยื่นหนังสือขอให้ถอดถอนชื่อเธอออกจากบริษัท เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

เมเปิดใจว่า ช่วงเวลานั้นชีวิตเหมือนพังทลาย ธุรกิจหลายแห่งที่เธอมีส่วนร่วมต้องถอยตัวออกมาเช่นกัน เพื่อให้กิจการเดินหน้าต่อได้โดยไม่ติดตัวเธอ พร้อมยอมรับว่าเรื่องนี้คือ “บทเรียนราคาแพง” ที่ไม่คาดคิดว่าจะย้อนมาทำร้ายตัวเองเช่นนี้

หลังจากมรสุมชีวิตถาโถม เมจำใจต้องถอดถอนหุ้นออก และนำหุ้นที่ถืออยู่ฝากแบ่งเท่า ๆ กันให้กับหุ้นส่วนทั้ง 3 คน กระทั่งเมื่อคดีความสิ้นสุด เธอจึงกลับไปขอถือหุ้นคืนเหมือนเดิม

แต่ทางหุ้นส่วนกลับยื่นเงื่อนไขมา 2 ทางเลือก — coinmasterx

  1. รับหุ้นคืน 25% เท่าเดิม แต่ต้องทำงานโดยห้ามออกหน้า
  2. รับหุ้น 12.5% เพื่อรับเพียงเงินปันผลอย่างเดียว

เมและสามี “แซ็ก” ตัดสินใจเลือกข้อแรก เพื่อรักษาสัดส่วน 25% และกลับเข้ามาทำงานตามเงื่อนไข แต่ไม่นานก็มีเงื่อนไขใหม่เพิ่มขึ้นว่า หากเปิดสาขาใหม่ เมและแซ็กจะไม่มีสิทธิ์มีส่วนร่วมในสาขาเหล่านั้น

ทั้งที่ในความเป็นจริง แผนเปิด 3 สาขาใหม่ เป็นแผนการเติบโตที่วางไว้ตั้งแต่ต้น และในช่วงที่เมฝากหุ้นไว้ เธอยังคงช่วยงานอยู่ตลอด ทั้งควักเงินออกค่าซื้ออุปกรณ์การแพทย์ ดูแลค่าใช้จ่าย รวมถึงเลี้ยงพนักงานอีกด้วย

เมื่อกลับเข้ามา เมจึงตัดสินใจใช้ “ชื่อน้องสาว” แทนตนเองในการถือหุ้น เพราะทางหุ้นส่วนไม่ไว้ใจที่จะใช้ชื่อของ เม อีกต่อไป ประกอบกับหุ้นส่วนทั้ง 3 เริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้น และไม่ต้องการให้ชื่อของเมเข้ามามีบทบาทเหมือนเดิมอีกแล้ว

จนวันที่ทราบเรื่องสาขาใหม่ เมยอมรับว่ารู้สึกไม่แฟร์อย่างมาก เพราะสาขาเหล่านั้นก็ใช้ทีมพนักงานชุดเดียวกันกับบริษัทเดิม (บริษัท M) แต่กลับไปตั้งบริษัทใหม่ (บริษัท D) โดยที่เมจะไม่ได้รับส่วนแบ่งใด ๆ จากสาขาใหม่เลย